พระกษัตริย์ พระองค์ที่ ๒๓
สมเด็จพระอาทิตยวงศ์ ทรงเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ ๒๓ แห่งกรุงศรีอยุธยา เป็นพระ ราชโอรสของสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม ครองราชย์เมื่อ พ.ศ. ๒๑๗๒ สืบต่อจากสมเด็จพระเชษฐาธิราช เมื่อเจ้าพระยากลาโหมสุริยวงศ์ก่อการกบฏ จับสมเด็จพระเชษฐาธิราชสำเร็จโทษ เจ้าพระยากลาโหม ไม่ยอมรับราชบัลลังก์ที่เหล่าเสนาทั้งปวงมอบให้ โดยให้เหตุผลว่ามิได้ปรารถนาในราชบัลลังก์แต่ได้ กระทำเพราะความจำเป็น เหล่าเสนาทั้งปวงจึงได้ถวายราชสมบัติแด่สมเด็จพระอาทิตยวงศ์ซึ่งขณะนั้น มีพระชนมายุเพียง ๙ พรรษาเท่านั้น
หลังจากที่ทรงประกอบพิธีราชาภิเษกแล้ว ปรากฏความในพระราชพงศาวดารว่าพระอาทิตยวงศ์ มิได้ว่าราชการใดๆ เพราะยังทรงพระเยาว์นัก เมื่อเป็นดังนี้เหล่าเสนามาตย์จึงเห็นพ้องว่าอาณาจักร จำเป็นจะต้องมีผู้นำ จึงเห็นสมควรมอบราชบัลลังก์ให้เจ้าพระยากลาโหมสุริยวงศ์ ซึ่งพระราชพงศาวดาร กรุงศรีอยุธยาฉบับวันวลิตว่า เจ้าพระยากลาโหมสั่งให้นำสมเด็จพระอาทิตยวงศ์ไปสำเร็จโทษตาม ราชประเพณี
สมเด็จพระอาทิตยวงศ์ครองราชสมบัติได้ ๓๘ วัน ตามที่ปรากฏในเอกสารของวันวลิต
สมเด็จพระอาทิตยวงศ์ ทรงเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ ๒๓ แห่งกรุงศรีอยุธยา เป็นพระ ราชโอรสของสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม ครองราชย์เมื่อ พ.ศ. ๒๑๗๒ สืบต่อจากสมเด็จพระเชษฐาธิราช เมื่อเจ้าพระยากลาโหมสุริยวงศ์ก่อการกบฏ จับสมเด็จพระเชษฐาธิราชสำเร็จโทษ เจ้าพระยากลาโหม ไม่ยอมรับราชบัลลังก์ที่เหล่าเสนาทั้งปวงมอบให้ โดยให้เหตุผลว่ามิได้ปรารถนาในราชบัลลังก์แต่ได้ กระทำเพราะความจำเป็น เหล่าเสนาทั้งปวงจึงได้ถวายราชสมบัติแด่สมเด็จพระอาทิตยวงศ์ซึ่งขณะนั้น มีพระชนมายุเพียง ๙ พรรษาเท่านั้น
หลังจากที่ทรงประกอบพิธีราชาภิเษกแล้ว ปรากฏความในพระราชพงศาวดารว่าพระอาทิตยวงศ์ มิได้ว่าราชการใดๆ เพราะยังทรงพระเยาว์นัก เมื่อเป็นดังนี้เหล่าเสนามาตย์จึงเห็นพ้องว่าอาณาจักร จำเป็นจะต้องมีผู้นำ จึงเห็นสมควรมอบราชบัลลังก์ให้เจ้าพระยากลาโหมสุริยวงศ์ ซึ่งพระราชพงศาวดาร กรุงศรีอยุธยาฉบับวันวลิตว่า เจ้าพระยากลาโหมสั่งให้นำสมเด็จพระอาทิตยวงศ์ไปสำเร็จโทษตาม ราชประเพณี สมเด็จพระอาทิตยวงศ์ครองราชสมบัติได้ ๓๘ วัน ตามที่ปรากฏในเอกสารของวันวลิต | ||